อัพเดทกฎหมายใหม่
ระเบียบกรมการขนส่งทางบก
ว่าด้วยการกำหนดสีและลักษณะของรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (ฉบับที่2 พ.ศ.2560)
ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560
“ข้อ ๕/๑ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสีของรถไม่ว่าจะดำเนินการด้วยวิธีใด ๆ เช่น การติดสติกเกอร์ ฟิล์ม หรือคาร์บอนเคฟล่า เป็นต้น ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถพิจารณากำหนดสีรถให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามข้อ ๕ เว้นแต่กรณีการติดสติกเกอร์ ฟิล์ม หรือวัสดุอื่นใด เพื่อการโฆษณาหรือตกแต่งรถ เป็นรูปภาพ ข้อความ ตัวอักษร และลวดลายต่าง ๆ เพิ่มเติมบนสีรถในภายหลัง ไม่ต้องกำหนดเป็นสีรถ”
ถ้าต้องการเปลี่ยนสีรถยนต์ให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สามารถทำได้เพียงแค่ไปจดแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ที่ กรมขนส่งทางบก
โดยตามกฎหมายมีข้อกำหนดว่าหากการเปลี่ยนสีรถยนต์มีมากกว่า 30% ของพื้นที่สีรถทั้งหมด
เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ต่อกรมขนส่งทางบก แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนสีเฉพาะส่วน
โดยมีพื้นที่ไม่ถึง 30% ของพื้นผิวรถยนต์ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้ง เช่นการเปลี่ยนสีเฉพาะส่วนหลังคา, ฝากระโปรงหน้า แบบนี้ไม่ถึง 30% ไม่ต้องจดแจ้ง
|
ส่วนวิธีในการจดแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์นั้น สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เรานำรถเข้าไปรับการตรวจสภาพที่กรมขนส่งทางบก และเตรียมเอกสารไปตามรายการ |
1. |
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ |
2. |
สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของรถ |
3. |
เล่มทะเบียนรถ หรือ สำเนา |
4. |
ใบเสร็จ หรือบิลเงินสดค่าทำสีรถ ติดอากรแสตมป์ 5 บาท |
|
(บิลเงินสดต้องลงวันที่ไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ลงในบิลถึงวันที่มายื่นเรื่อง ถ้าเกินกำหนด 7 วันจะโดนค่าปรับ 200 บาท) |
|
|
|
ในกรณีที่เจ้าของไม่ได้ไปเองต้องเตรียมเอกสารแนบเพิ่มดังนี้ครับ
|
1. |
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ดำเนินการไม่ใช่เจ้าของรถ) |
2. |
หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีผู้ดำเนินการไม่ใช่เจ้าของรถ) |